4 วันในไทเป กิน ช้อป เที่ยว

By


หมดช่วงปลายปีมา อยากหาเวลาพักผ่อน ไปเที่ยวแบบกันแบบยกทีม GANDAGANDA เน้นกิน เปิดหูเปิดตา สุดท้ายตกลงกันว่าไปไต้หวันกันดีกว่า เพราะมีร้านอาหารร้านโปรดที่อยากกลับไปกิน บาร์ที่เคยชอบไปนั่ง ตลาดปลาที่ชอบเดิน และพิพิธภัณฑ์อาร์ทๆที่อยากไปดู เดินทางสะดวก เมืองไม่ใหญ่เกิน อากาศเย็นๆกำลังดี ดูเหมาะกับเวลา 4 วัน ไม่เป็นทริปที่เหนื่อยจนเกินไป

วันที่ 1

ลงเครื่องมา 6 โมงเช้า ตอนแรกคิดว่าลงเครื่องมาคงนอนก่อนซักชั่วโมง แต่ทั้งทีมลงความเห็นตรงกันว่าหิว เราจะไปหาอะไรดีๆกินกัน เริ่มต้นทริปด้วยตลาดปลาตอน 6 โมงเช้าไต้หวัน Taipei Fish Market เป็นหนึ่งในที่ๆแวะเวียนมาไต้หวันกี่ครั้งก็ต้องกลับมากินเสมอ ตลาดปลา ด้านซุปเปอร์มาเก็ตญี่ปุ่น ขายทั้งผลไม้ ขนม และ มีซูชิบาร์แบบเคาเตอร์ยืนกิน ยืนดูเชฟแร่ปลากันแบบสดๆ ราคาถูก คุณภาพดีไม่แพ้ภัตตรคารแพงๆที่ไทยเลย ด้วยความหิวสั่งกันแบบไม่ยั้ง ทั้งโอโทโร่ อูนิ ออยสเตอร์ กินกัน 5 คนแบบจุกๆ ราคาประมาณคนละ 1,000 นิดๆ 

หลังจากกินอิ่ม เราก็ค้นพบว่าเราอิ่มจนกลับไปนอนไม่ไหว Taipei Fine Arts Museum นั่งแทกซี้ไปไม่ถึง 10 นาที ที่นี่ถือว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ร่วมสมัยที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ที่นี่เราคิดว่าต่อให้ไม่ใช่สายอาร์ทก็สามารถมาได้ เค้ามีความสามารถทำให้ งาน Fine Art ที่ดูเข้าถึงได้ยาก พรีเซนต์ออกมาให้เข้าถึงได้ง่าย แต่ละห้องแต่ละโซนให้ความรู้สึกแตกต่างกัน เดินสนุกไม่เบื่อเลย เผลอเดินเพลินกว่าจะออกมาก็บ่ายเกือบจะเย็น 

เรื่องช็อปเราไม่เคยพลาด Da’an District มุ่งหน้าไป ZARA เพื่อนรักช๊อบใหญ่มาก มีสองชั้นแบบเต็มๆ ของลดเยอะสุด เดรสตัวเด็ดที่เล็งไว้ราคาเกือบ 4,000 บาทที่ไทย สอยกลับมาในราคา 1,000 บาทถ้วนเท่านั้น วันแรกแค่ไปร้านเดียวก็หมดแรง ได้ชุดกลับมาสองถุงใหญ่ 

จบวันด้วยการไปร้านโปรด Ding Wang Spiccy Hot Pot ชอบในขนาดนี้ว่าเมล์มาจองโต๊ะตั้งแต่อยู่ไทย คือไม่ว่าจะมาไต้หวันเนื่องในโอกาสอะไร เราจะไม่พลาดร้านนี้เด็ดขาด น้ำซุปเผ็ด สไตร์พื้นเมืองของไต้หวันแท้ๆ เลือกความเผ็ดได้ตามชอบ เนื้อวัว เนื้อแกะ เต้าหู้นุ่มมาก ผักคือดีสุด ร้านไม่ใหญ่มาก บรรยากาศร้านเป็นกันเอง นั่งสบาย เจ้าของน่ารักพูดอังกฤษคล่อง สั่งเอาอะไรได้หมด ใครอยากลองหมาล่าของแท้ ไปร้านนี้ไม่ผิดหวังแน่นอน

วันที่ 2

เริ่มด้วยเดินสำรวจรอบๆแถวที่เราไปอยู่ ลืมบอกเราจอง Airbnb Shepherd’s Loft เป็นห้องใหญ่แบบ 3 ห้องนอนมีห้องน้ำในตัวทุกห้อง ราคา คืนละ 7,000 กว่าๆ อยู่แถว Xinyi District เดินไปจากที่ๆเราพักไม่ไกลมีตลาด ชอบเวลามาเที่ยวแล้วได้กินอาหารบ้านจริงๆของประเทศนั้นๆ เลือกร้านก๋วยเตี๋ยวริมทางนั้นแหละ เราว่าเส้นก๋วยเตี๋ยวไต้หวันเหนียวนุ่มมาก อร่อยดี 

นอกจากจะสายอาร์ท สายช้อป สายกิน สิ่งนึงที่มาไต้หวันแล้วห้ามพลาดคือสายมู เราแวะไปวัดดัง Longshan Temple วัดใหญ่คนเยอะมาก มีทุกเทพให้ขอ ตั้งแต่การงาน ความรัก สุชภาพ ใครมาเน้นเรื่องไหนไปประจำจุดได้เลย ไห้วเสร็จที่ห้ามพลาดคือช้อปเครื่องราง (มีมาฝากสาวๆที่อ่านกันด้วยนะรอบนี้เราซื้อความรักมาฝากกันแบบเน้นๆ) 

หลังไห้วพระขอพร ก็ไปเดินแถว Ximending เป็นย่านวัยรุ่นๆเหมือนมาเดินสยาม กินชานมร้านดัง Tiger Sugar ชานมราดน้ำตาลทรายแดง ชิมแล้วไม่ใช่แนวหวานเกิน จบวันแวะไปบาร์ลับ  HUNKO 60 ทางเข้าออกแบบมาให้เหมือนเป็นกำแพง หน้าตาเหมือนโรงหนังย้อนยุค เมนูมีเป็นคอนเซ็ป ชื่อซีรี่อย่าง Gray Anatomy, True Blood หรือหนัง รอบนี้ไปแล้วรู้สึกผิดหวังไม่อร่อยเหมือนเดิม แถมยังแพงอีกเซงมาก

วันที่ 3

ตื่นเช้ามาไร้แผนการ ไม่รู้จะไปไหนดี สุดท้ายไปจบที่ Taiwan Design Museum เป็นตึกเก่ามีโซนโรงงานบุหรี่ สวนหย่อม โชว์งานอาร์ท มีพวกผลิตภัณฑ์ดีไซน์ใหม่ๆ เดินเลยออกจะมีเป็น Eslite Spectum เป็นห้างที่ขายเสื้อผ้าดีไซน์เนอร์ เครื่องสำอางแพคเกจน่ารัก ด้านบนเป็นร้านหนังสือขนาดใหญ่ ใหญ่จนอยากซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่มจะได้แบกหนังสือที่อยากได้กลับมาให้หมด

และจบวันด้วยการกลับมากิน  Ding Wang Spiccy Hot Pot อีกรอบ อร่อยแค่ไหน ไม่ต้องพูดเยอะ หนึ่งทริปเราจะกินวนสองรอบไม่ได้ถ้ามันไม่เด็ดจริง กินเยอะเหมือนเดิม อร่อยเหมือนเดิม รู้สึกเติมเต็ม

ตกดึกเรากลับไปที่ Da’an District อีกครั้งแต่รอบนี้เลือกเดินร้านในซอยต่างๆ ที่เป็นช็อบใหญ่ๆ อย่าง United Arrow หรือ Porter ร้านหนังสือน่ารักชื่อ VVG Something มีทั้งหนังสือ ของและเครื่องเขียนสไตร์วินเทจ จาน ชาม โปสการ์ด  เจ้าของร้านฮ๊อตพอทแนะนำให้เรามาลองชิมชานมชื่อ TenRean’s Tea ที่อยู่บนถนนเส้นนี้ เราว่าอร่อยสุดเท่าที่ชิมมาในทริปนี้ เป็นชานมรสไม่หวานเลี่ยนรสแบบถูกปากเรา ไข่มุกหนึบอร่อย 

วันที่ 4 

วันสุดท้ายก่อนอำลา Taipei เมื่อคืนตอนกลับไปกิน Hotpot ซึ่งอยู่แถวมถนน Da-an District เห็นหลายร้านน่าสนใจเลยอยากลองกลับไปสำรวจช่วงเช้าบ้าง เร่ิมด้วยคาเฟ่เก๋ ราคาแพงใช่ได้ Onefifteen คาเฟ่คอนเซปท์ “The most Simple and delicious” อาหารเช้าเฟรชๆ เฮลตี้ นั่งได้ชิลๆ ถ่ายรูปมุมไหนก็สวย ทานอาหารเช้าเสร็จออกไปเดินเล่น กลายเป็นว่าถนนเส้นนี้เก๋มากร้านเสื้อผ้าน่ารักๆเต็ม แถมเจอร้าน 10/10APOTHECARY ร้านรวมเครื่องสำอางแบรนด์เก๋ๆ อย่าง Diptyque, Le Labo ,BYREDO และอื่นๆอีกเต็มไปหมด หลังจากเสียตังค์แต่ของกินซะเยอะมาตลอดทริปมาจบแบบตัวเบาๆที่ร้านนี้เลย 

ออกร้านมาตัวเบาแต่ของเต็มมือ ช๊อปจนหิวข้าวเลยแวะร้านแถวนั้นชื่อ Tian Yuan Taiwanese Cuisine & Seafood เป็นร้านอาหารแบบไต้หวันจริงๆ ไม่มีภาษาอังกฤษ ไม่มีใครสื่สารกับเรารู้เรื่อง แต่อร่อยแบบประทับใจมาก เหมือนจะเป็นร้านดังของคนไต้หวัน หมูกรอบคือหรอบหวานหอมอร่อย หอยนางรมกับซอสเผ็ดฉ่ำสุดๆ เอาเป็นว่าทุกจานที่สั่งไปแบบชี้ๆไปคืออร่อยหมด อร่อยแบบประทัปใจ 

นี่คือทริป 4 วันในไต้หวันที่เราว่าครบ คืออิ่มจนจุก ช็อปจนเมื้อยมือ เดินพิพิธภัณฑ์จนขาลาก แถมได้เครื่องลางกลับบ้านมาอีกครึ่งโหล ขอพรมาแบบทั้งปีนี้ต้องปังแน่นอน

more from Lifestyle

view More

follow us on

subscribe to our

Newsletter!

Join us